top of page

Ribbeeman & Ribbee

ที่ Kumamoto เขายังมี Kumamon ได้ ผมก็เลยให้ที่ Ribbee มี Ribbeeman บ้าง นั่นคือสิ่งที่ผมคิดเมื่อสักห้าปีก่อน ตอนที่ผมคิดจะให้แบรนด์ริบบีของผมมีตัวนำโชคกับเขาบ้าง ตอนแรกคิดจะให้เป็นอูคูเลเล่มีแขนขาและหน้าตา แต่ลองดูแล้วมันประหลาด เลยคิดว่าเอาโลโก้ที่เป็นรูปผึ้ง ที่อ.จ.ม่อนแห่งสถาปัตจุฬาออกแบบมาให้ตั้งแต่ 15 ปีที่แล้ว เมื่อครั้งที่ผมแต่งงาน (ผมไม่แก่มาก แต่แต่งเด็ก) โดยมีที่มาจากการควบรวมชื่อของผมและภรรยา (บี และ ริบบิ้น) ให้ออกมาเป็นผึ้งที่มีริบบิ้นผูก ส่วนชื่อ ริบบี ผมคิดมันหน้างานแต่งงาน เพราะได้ทำเสื้อยืดที่มีโลโก้นี้แจกด้วย และประกาศว่าให้มารับเสื้อ "ริบบี" กันด้วย และนั่นคือที่มาของ Ribbee ครับ :)

ภาพที่ 1. โลโก้ริบบีเวอร์ชั่นแรก โดยอาจารย์ม่อน เพื่อใช้เป็นโลโก้งานแต่งงานผมและภรรยา ของจริงมันกลมกว่านี้ แต่ผมหารูปจากเน็ตได้มาแบบนี้

โลโก้นี้อยู่กับผมมาตลอด และพอมาทำร้านขายกีตาร์และอุปกรณ์ ผมก็นำมาเป็นชื่อด้วยเลย โดยมีการเปลี่ยนแบบตามยุคสมัยโดยคุณเทพ ใช้ชื่อ Ribbee Boutique เพราะกีตาร์ แอมป์ และ อุปกรณ์ที่ขาย เป็นของระดับไฮเอนด์ ซึ่งเขาเรียกมันว่า boutique guitars/ boutique amps ผมก็เราต้อง Ribbee Boutique ด้วย ที่ชอบคือ ผมไม่มีคำว่ากีตาร์หยู่ในชื่อร้านเลย ตั้งชื่อออกนอกโลก แต่คิดว่าจำง่าย และประหลาด น่าค้นหาความหมายยิ่งนัก

ภาพที่ 2. โลโก้ที่ใช้ตอนทำร้านขายกีตาร์และอุปกรณ์ เอาแบบเก่ามาดัดแปลงโดยคุณเทพ

ภาพที่ 3. ป้ายร้าน เมื่อย้ายมาสยามสแควร์ และเน้นแต่อูคูเลเล่อย่างเดียว

ต่อมาผมมาขายอูคูเลเล่อย่างเดียว เลยมีสร้อยว่า Ribbee Boutique Ukulele Paradise หรือ สวรรค์สำหรับคนรักอูคูเลเล่นั่นเอง

ภาพที่ 4. ผมย้ายร้านจากชานเมืองเข้ามาในเมือง กับโลโก้และชื่อนี้เพราะคิดว่าน่าจะโดน และมันก็โดนจริงๆ ครับ ผู้คนจากทั่วสารทิศ ต่างมุ่งหน้ามาที่ริบบี (เพราะมันมีอยู่ที่เดียวที่ขายอูคูเลเล่)

ภาพที่ 5. สติ๊กเกอร์ Ribbee รุ่นแรก พัฒนาจากตราผึ้งผูกโบว์ เป็นสิ่งมีชีวิต ก็ได้ตัวผึ้งผูกโบว์ออกมา เริ่มดูเป็นการ์ตูนขึ้น มีความญี่ปุ่นขึ้น ออกมาได้ดั่งใจโดยคุณเทพเจ้าเก่า

คราวนี้ก็ถึงเวลาที่ผมอยากให้นำเจ้าผึ้งของเรา มาโมให้กลายเป็นยอดมนุษย์ ซึ่งผมก็ได้คุณเทพ มือกราฟฟิคดีไซน์เนอร์คู่บุญ ที่ทำงานกันมานานกว่ายุคอูคูเลเล่เสียอีก ให้ลองสร้างตัวริบบีแมนออกมาดู

ภาพที่ 6. Ribbeeman ออกมาเป็นตัวเป็นตน โดยคุณเทพคนเดิม จากตัวผึ้ง กลายเป็นเสื้อลายผึ้ง จากผูกริบบิ้นแบบโบว์ กลายเป็นริบบิ้นแบบผ้าพันคอ ปีกหายไป มีแขน ขา และพกอูคูเลเล่ทรงคามาค่า

ริบบีแมนนี้ คือแบบที่ใช้มาเรื่อยๆ แต่วิวัฒนาการของมันยังไปต่อ แต่ไปแบบไม่รู้ตัวครับ เดี๋ยวคอนสังเกตุดูนะครับ ว่าอะไรหายไปอีก

ภาพที่ 7. สติกเกอร์ ริบบี รุ่นที่สอง เปลี่ยนจากตัวผึ้งเป็นริบบีแมน

ภาพที่ 8. ใครผ่านไปผ่านมา ริบบี สาขา สยามสแควร์ ก็จะเจอกับ ริบบีแมน ผู้ยืนหยัดมานานนม ภาพนี้ถ่ายก่อนมาเขียนนี่ไม่ถึงชั่วโมงครับ เป็นภาพล่าสุด ณ ตอนเขียน

ภาพที่ 9. Ribbeeman บนอูคูเลเล่คัสตอม ที่ผลิตโดยช่างไทยมือดีคนหนึ่ง ถอดแบบมาจากคุณเทพ แต่มือเปลี่ยนเป็นทำสัญลักษณ์ Shaka

ภาพที่ 10. สติกเกอร์ริบบี รุ่นที่ 3 ไม่ได้คุยกันว่าไง แต่มีอะไรหายไป? ทราบไหมครับ? หนวดครับ มันหายไปแล้ว ตอนนี้ ริบบีแมน จะเริ่มกลายเป็นคนเข้าไปทุกทีแล้วครับ

ภาพที่ 11. ภาพนี้ถ่ายวันนี้ โมเดลสามตัวนี้ ไม่ได้มาพร้อมกัน แต่เกิดห่างกันยาว โดยตัวซ้ายสุดมาก่อน คล้ายๆ จะเป็นตัวอย่าง ตัวกลางตามมา ตั้งไว้ที่สยามสแควร์ยาวนานจนตอนนี้ย้ายมาไว้ที่ทากะทาวน์ ส่วนตัวทางขวาเพิ่งเสร็จออกมา คุณเทพคนออกแบบพกไปไหนมาไหนด้วย ณ ขณะนี้ครับ

และนี่คือโฉมหน้าของ graphic designer คุณเทพ ผู้ออกแบบเกือบทุกอย่างของ ริบบี และผู้ให้กำเนิด Ribbeeman ของเราครับ เร็วๆ นี้จะมี สติกเกอร์ รุ่นที่ 4 ออกมา มาคอยดูว่าริบบีแมนจะเป็นอย่างไรกันทีนี้


Follow Us
  • Twitter Basic Black
  • Facebook Basic Black
  • Google+ Basic Black
Recent Posts
bottom of page