top of page

ตามหาเต่าทะเล ณ North Shore เกาะ Oahu, Hawaii


เช้าวันนี้เป็นวันจันทร์ ผมเลยพาลูกขับรถจาก Honolulu เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องและความศิวิไลย ทิ้งความเจริญไปสู่ North Shore อีกซีกหนึ่งของเกาะ ที่เขาถือว่าเป็นบ้านนอกของที่นี่ โดยมีเป้าหมายจะพาลูกมาดูเต่าทะเล ที่ว่ายน้ำมาอาบแดดบนชายหาด เรื่องของเรื่องคือผมกับลูกชายวัย 9 ขวบ มาฮาวายกันสองคน มาอยู่เป็นสิบวัน ส่วนมากหมดเวลาไปกับการอยู่ในทะเล วันนี้อยากเปลี่ยนบรรยากาศมาทำอย่างอื่นบ้าง ก็เลยกะจะมาเยี่ยมเพื่อนและศิลปินที่ผมดูแลอยู่ Kalei Gamiao ที่เป็นศิลปินอูคูเลเล่อันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งเขาก็เป็นคนเมืองนี้พอดี ในภาพคือวิวข้างทาง พอมาถึงโซนนี้ ถนนจะเหลือไปเลนมาเลน มีแต่ภูเขา และทุ่งหญ้า กว้างสุดลูกหูลูกตา

เราขับรถมาเรื่อยๆ บน Kamehameha Highway ทางสายเก่าที่วิ่งเลียบชายหาด มาจนถึงบริเวณที่คาดว่าจะเป็นหาด Laniakea ที่ซึ่งมักมีเต่าชุกชุม ตรงนี้เขาไม่มีป้ายบอก แต่รู้ได้จากจำนวนรถของคนที่ขับมาจอด เพื่อเดินลงไปชมเต่ากัน ที่จอดรถตรงนี้หายากทีเดียวหากมาสาย ซึ่งผมก็มาสาย เลยต้องวนอยู่นานกว่าจะได้ที่จอด

บรรยากาศของหาด Laniakea เขาอนุรักษ์หาดได้ดีมาก ไม่มีสิ่งปลูกสร้างอะไรเลย มีแต่ธรรมชาติล้วนๆ น้ำทะเลก็ใสอย่างที่เห็น นี่ขนาดเพิ่งมีใต้ฝุ่นมา น้ำบ่าลงมาจากภูเขาขนเอาโคลนลงทะเลมาตั้งเยอะ น้ำยังใสอยู่เลย ซึ่งก็คงเพราะมันอยู่ทางเหนือ น้ำทะเลพัดพาโคลนออกไปหมดอย่างรวดเร็ว ผิดกับฝั่งโฮโนลูลูที่ผมอยู่ ตรงนั้นหลังจากมีพายุ น้ำทะเลหม่นไปเยอะเหมือนกัน

ที่เห็นเขียวๆ นั่น คืออาหารเต่าอย่างดีเลยครับ และนั่นเป็นสาเหตุให้แถวนี้มีเต่า (รวมทั้งปลา) ชุกชุม หิวเมื่อไหร่มาที่นี่รับรองฟิน พออิ่มก็มานอนอาบแดดกันชิลเลย แต่....

แม้อาหารจะมี น้ำจะใสแค่ไหน วันนี้ไม่เจอเต่าสักตัวครับ ประหลาดมาก ถ้าจะให้ผมเดาคงจะเพราะว่าเมื่อคืนก่อนมีพายุ เต่าอาจจะยังไม่ชอบสิ่งแวดล้อมแถวนี้ หลังจากน้ำฝนล้างโคลนจากยอดเขาลงสู่ทะเลมาตรึม ทะเลอาจเปลี่ยนไปในสายตาเต่าเลยไม่มากัน

จะมีก็เด็กๆ ชาวบ้านแถวนี้ หอบหิ้วบอร์ดมาโต้คลื่นกัน ส่วนเต่า...ไม่มีครับ เรารออยู่นานมันก็ไม่มา มีแต่คนมารอเต่า จนได้เวลานัดเพื่อนผม เราเลยต้องกลับไปตาเปล่า!

ในกรณีที่มีเต่า เขาจะมีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครออกมาทันที เพื่อขึงเชือกกั้น ไม่ให้ใครเข้าไปยุ่ง ไปจับ ไปให้อาหารบรรดาคุณเต่าทั้งหลาย ปล่อยให้บรรดาเต่าชิลกันเองตามสบาย ผมเคยมาแล้วเจอเต่าห้าหกตัว เขาก็มีคนมาเฝ้าเท่ากับจำนวนเต่าเลย เรียกว่าที่นี่ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ธรรมชาติมากๆ ขนาดทรายเขายังไม่ให้เอาไปเลย ถ้าเขารู้เขาจะให้เราต้องเอาคืนที่เดิม ทรายเป็นผืนดินของเขา แถมเวลาชาวฮาวายเสียชีวิต เขาจะเผาเหมือนเรา แล้วก็ลอยอังคารเหมือนเราเช่นกัน ฉะนั้นบรรพบุรุษเขาก็อยู่ในทรายด้วยนะครับ

เมื่อพลาดเต่าแล้ว ผมกับลูกก็ปีนกองหิน ข้ามรากไม้ กลับไปที่รถ เพื่อเดินทางสู่ Haleiwa เมืองดังของฝั่งนี้กัน เรานักเพื่อนไว้ที่ร้านเด็ด

ขับรถย้อนกลับไปทางเดิมที่มา เพราะจริงๆ แล้วผมขับผ่านจุดนัดพบมา วิวที่ท้องฟ้าเป็นฟ้า ต้นไม่เขียวขจี ภูเขาสูงตระหง่าน อากาศดีเวอร์ ขับรถไปเรื่อยๆ ไม่ติด มันก็ทำให้เรามีความสุขได้เหมือนกัน แต่ถ้ามาที่นี่เสาร์อาทิตย์ จะเจอรถติดแบบสุดโคตรนะครับ ผมเลยเลือกมาวันจันทร์ วันที่ไม่ค่อยมีใครเขามาแถวนี้กันนัก

ร้านเด็ดที่ว่านั้นคือร้านน้ำแข็งไส Matsumoto Shave Ice ร้านน้ำแข็งไสเจ้าเก่าของที่นี่ ใครมาก็ต้องมาชิม จนที่ร้านมีแถวยาวแบบนี้มาหลายสิบปีแล้ว น่าอิจฉาจริงๆ ครับ

ร้านนี้เพิ่งสร้างใหม่ คราวก่อนๆ ที่นี่จะเป็นเพิงเล็กๆ กว่านี้ มาคราวนี้เขาทำใหม่ซะสวยงามทีเดียวครับ ในร้านนอกจากจะขายน้ำแข็งไสแล้ว เขามีของที่ระลึกขายมากมาย ตั้งแต่ที่รองแก้ว หมวก เสื้อ ไปจนถึงเรือรบ มีหมดครับ

โฉมหน้าของ Kalei Gamiao ศิลปินอูคูเลเล่อันดับต้นๆ ของโลก ผมเป็นผู้จัดการประจำเอเชียเขาเอง ตอนนี้เราเป็นมากกว่าคนทำงานด้วยกัน กลายเป็นครอบครัวกันไปแล้วครับ

บรรยากาศในร้านเขา คนเข้าแถวเต็มพื้นที่ ระหว่างเข้าแถวก้หยิบของที่ระลึกกันไป ถ้าหันหลังให้ภาพนี้ จะเจอกิฟท์ว็อป ขายทุกสิ่งทุกอย่างที่ติดชื่อร้านนี้ ของเขาโลโก้สวยน่าใช้ครับ ผมยังจัดมาหลายรายการ

นัดเจอที่ร้านน้ำแข็งไสเพราะนัดง่ายดี แต่เราไม่ได้ไปกินอะไรทัวริสต์แบบนั้นครับ เราพากันไปทานอาหารที่คนแถวนี้เขาทานกัน ว่าแล้วก็เดินตามกันไป (แบบเว้นระยะทำไม?)

นี่เลยครับ อาหารของคนจริง ถ้ามาฮาวาย ต้องจัดสิ่งนี้ รับประดันพลังงานเกินพันแคลแน่นอน ข้าวสามสกู๊ปเขื่องๆ ตรงกลางของแฮมเบอร์เกอร์สองดุ้น ไข่สองฟอง มักโรนีชี้สหนึ่งสกู๊ปอัดแน่น ไก่นักเก็ตแถมมาอีกสองก้อน บวกเกรวี่ที่ลำพังมันเองน่าจะสองร้อยแคลได้ ก็ทำให้เราอิ่มได้แบบคนฮาวาย บำรุงร่างกายกันไปครับ เมนูนี้คือ Loco Moco ของโปรดของลูกชายผมเลย มารอบนี้เรากินไปเกือบ 10 เวอร์ชั่นครับ

คุยกันตอนทานข้าวว่าวันนี้เต่าหายไปไหนหมด kalei และพ่อเลยบอกเดี๋ยวจะพาไปสถานที่ลับ ที่ๆ รู้กันเฉพาะคนแถวนี้ว่ามีเต่า หมู่มวลนักท่องเที่ยวจะพากันไปที่ๆ เราไปตอนเช้า แต่ถ้าคนแถวนี้เขาจะรู้กันว่ามีเต่าอยู่ชุกตามที่อื่นๆ ด้วย และนี่คือภาพตอนเขาพาเราเดินตัดสนาม ผ่านต้นไม้ใหญ่ๆ ที่เห้นอยู่ลิบๆ ข้างหน้า สู่ทะเลอีกด้านหนึ่ง เพื่อไปสู่หาดลึกลับ

พอเดินมาสุดถึงหาด ต้องลัดเลาะกันไปต่อ ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่ไม่มีมนุษย์มายุ่ง ดั่งภาพที่เห็นนี้ จะเห็นว่าน้ำทะเลของแถวๆ นี้จะเป็นสีโคลนเลย ผิดจากปกติที่จะใสเห็นพื้นทรายได้ นี่คือโคลนจากภูเขาที่ไหลลงสู่ทะเลครับ

เดินมาถึง นั่งพักสักครู่ ปล่อยให้เขาไปเดินหาเต่ากัน ไม่นานก็มีเสียงเรียกว่าเจอแล้วสองตัว แถมที่นี่ไม่มีคนเฝ้าเต่าด้วย เราแค่ต้องระวังเอาเองไม่ให้ผิดกฏ เพราะไม่งั้นตำรวจอาจจะพาไปเที่ยวได้

เขาเดินมาตามให้ไปดูเต่าได้ เจอแล้วครับ เต่าตัวแรก ปกคลุมไปด้วยทราย นอนอาบแดดอยู่เพียงลำพัง เนื่องจากน้ำทะเลตอนที่ไปแย่มาก เต่าไม่เยอะ แต่แถวนี้ที่น้ำทะเลแย่หนักกว่าตรงไหนๆ กลับมีเต่ามา เหตุผลอาจจะเพราะไม่มีคนมารบกวน จนกระทั้งพวกผมมา

มองเลยไปข้างหลัง จะเห็นคนกลุ่มหนึ่ง ตรงนั้นก็มีเต่าอีกตัวครับ ส่วนลูกผมไม่รู้กฏหมาย เดินเข้าไปซะใกล้เชียว แต่พอเราทราบเราก็รีบกระโดดออกมาให้ได้ระยะ คนที่เห็นไกลๆ เป็นนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่คนฮาวายพามาเที่ยว ถ้าไม่มีใครพามา มาไม่ถูกหรอกครับ 555

ระยะที่สามารถเข้าใกล้เต่าได้ แม้ไม่มีคนเอาเชือกมากั้น ก็ต้องเคร่งครัดกับข้อห้าม ประเทศเจริญเขาทำกัน เต่าก็ไม่โดนรบกวน

ตัวนี้ตัวใหญ่ มีเพลียงเกาะมาด้วย แต่ที่เคนเจอครั้งก่อนๆ ใหญ่กว่านี้ก็มี และมีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมไปที่ Hanauma Bay แล้วโชคดีดำน้ำตื้นอยู่ดีๆ เต่ามา เลยว่ายไปกับมันอยู่พักหนึ่งเลย

ปิดท้ายด้วยภาพคุณเต่าที่ผมและลูกตามหา โชคดีมีเพื่อนท้องถิ่นเลยได้เจอ ไม่งั้นวันนั้นคงเป็นอีกวันที่ทำอะไรไม่สำเร็จแน่ๆ แล้วเดี๋ยวมาเล่าต่อครับ มีเรื่องอีกเยอะมาก รอบนี้มาแบบชิลๆ ตามหาเต่า จนเจอเต่า ขอบคุณที่อ่านคร้าบบบบบ :)


Follow Us
  • Twitter Basic Black
  • Facebook Basic Black
  • Google+ Basic Black
Recent Posts
bottom of page